By | March 16, 2023

การศึกษาจิตใจมนุษย์เป็นกระบวนการค้นพบที่ซับซ้อนและน่าทึ่งมาก เรารู้ว่าจิตใจของเราควบคุมทุกสิ่งที่เราพูดหรือทำ คิดหรือรู้สึก เรารู้เช่นกันว่าบ่อยครั้งที่เรารู้สึกบางอย่างแต่เราไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไม และเราไม่มีอำนาจที่จะเปลี่ยนความรู้สึกของเราแม้ว่าเราจะต้องการหรือรู้ว่าควรทำก็ตาม

ความเศร้าหรือความเจ็บปวดทางอารมณ์ใดๆ ก็ตามมักไม่ใช่ความรู้สึกที่น่ายินดี แต่บ่อยครั้งเราก็หมดหนทางที่จะเอาชนะมัน การต่อสู้ทางจิตใจที่รุนแรงเป็นการต่อสู้ระหว่างจิตสำนึกและจิตไร้สำนึกของเรา

ส่วนที่ใส่ใจในจิตใจของเราคือส่วนที่เรารับรู้ ประมวลผลความคิดและภาพที่เรารับทราบและยืนยัน เป็นที่อยู่ของจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ของเรา แต่จิตสำนึกถูกจำกัดโดยสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา โดยสิ่งที่เราเป็นส่วนหนึ่งหรือสัมผัสกับมัน

จิตไร้สำนึกคือส่วนหนึ่งของจิตที่ทำงานอย่างเงียบ ๆ ตลอดเวลา ประมวลผลและเก็บความคิดและภาพต่าง ๆ ไว้นอกการรับรู้ของเราโดยที่เราไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นที่ซึ่งแกนหลักของความเชื่อ มุมมอง ความสามารถ แม้กระทั่งอารมณ์และพฤติกรรมของเราอาศัยอยู่ เป็นที่ที่เราเก็บคำตอบภายในของเรา ที่ที่เรามักเรียกกันว่า “ส่วนลึก” เมื่อเราใช้นิพจน์นั้น โดยพื้นฐานแล้วเรากำลังระบุสิ่งนั้นตามความเป็นจริง ส่วนหนึ่งของจิตใจของเราที่เรารู้ว่าอยู่ที่นั่น แต่เราไม่รู้ว่ามันกำลังทำอะไรหรือกำลังบอกอะไรเราอยู่

เราใช้จิตไร้สำนึกอย่างต่อเนื่องโดยไม่รู้ตัว จิตไร้สำนึกคือที่ที่พลังมีอยู่จริง เป็นที่ที่เราสามารถได้รับอิทธิพล ได้รับผลกระทบ และเคลื่อนไหวทางอารมณ์ แต่เราขาดความสามารถที่จะเข้าถึงมันอย่างมีสติ

การสะกดจิตนำเราตรงไปยังส่วนที่ไม่ได้สติของจิตใจของเรา เพื่อที่เราจะสามารถสัมผัส ดึงมันออกมา และนำสิ่งที่เรารวบรวมไว้ไปใช้ในระดับจิตสำนึกในเวลาต่อมา ที่ซึ่งการสะกดจิตได้ผลคือในส่วนของจิตใจที่มีความเชื่อพื้นฐานของเรา อยู่ในระดับความลึกที่สามารถใช้อิทธิพลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นั่นคือเหตุผลที่การสะกดจิตมุ่งไปที่จิตไร้สำนึก ซึ่งจะมีประโยชน์มากที่สุด จะไม่ป้องกันความรู้สึกโศกเศร้า มันจะช่วยให้คุณเข้าถึงแก่นแท้ของเรื่อง และช่วยระบุและดึงมันออกมาในระดับจิตสำนึก ซึ่งคุณสามารถจัดการกับมันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น